กินไฟเบอร์ไม่พอ ส่งผลอย่างไรกับร่างกาย?

ไฟเบอร์ หรือ ใยอาหารไม่เพียงพอ ส่งผลต่อสุขภาพหลายด้านมากกว่าที่คนส่วนใหญ่คิด เพราะใยอาหารมีบทบาทสำคัญในการทำงานของ ระบบย่อยอาหาร ระบบขับถ่าย น้ำตาลในเลือด ไขมันในเลือด และสุขภาพลำไส้โดยรวม ครับ

กินไฟเบอร์ไม่พอส่งผลอะไรบ้าง

  1. ท้องผูก และระบบขับถ่ายทำงานผิดปกติ
    ไฟเบอร์ช่วยเพิ่มปริมาณกากอาหารและทำให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น หากร่างกายได้รับไฟเบอร์ไม่เพียงพอ จะทำให้อุจจาระแข็ง ขับถ่ายยาก เกิดอาการท้องผูก และเสี่ยงต่อโรคริดสีดวงทวาร
  2. น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นง่าย
    ไฟเบอร์มีคุณสมบัติช่วยให้อิ่มนานโดยไม่เพิ่มแคลอรีมาก หากขาดไฟเบอร์จะรู้สึกหิวเร็ว กินจุกจิก และอาจทำให้น้ำหนักขึ้นโดยไม่รู้ตัว
  3. น้ำตาลในเลือดไม่สมดุล
    ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด หากได้รับไฟเบอร์ไม่เพียงพอ อาจทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว และมีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2
  4. คอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น
    ไฟเบอร์สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล โดยจับไขมันส่วนเกินในระบบย่อยอาหารแล้วขับออกจากร่างกาย หากไม่กินไฟเบอร์ให้เพียงพอ อาจทำให้ระดับคอเลสเตอรอลเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
  5. ระบบจุลินทรีย์ในลำไส้เสียสมดุล
    ไฟเบอร์เป็นอาหารของจุลินทรีย์ดีในลำไส้ ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกัน การย่อยอาหาร และการดูดซึมสารอาหาร หากขาดไฟเบอร์จะทำให้แบคทีเรียดีลดลง ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม
  6. เสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง
    การกินไฟเบอร์ไม่พอในระยะยาวเชื่อมโยงกับโรคเรื้อรังหลายชนิด เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคหัวใจ เบาหวาน และความดันโลหิตสูง

ปริมาณไฟเบอร์ที่ควรได้รับต่อวัน

  • ผู้ใหญ่ควรได้รับไฟเบอร์ประมาณ 25–30 กรัมต่อวัน
  • เด็กควรได้รับไฟเบอร์ตามสูตร 5 + อายุ (เช่น เด็กอายุ 10 ปี ควรได้ 15 กรัมต่อวัน)

อาหารที่มีไฟเบอร์สูง

  • ผัก: คะน้า บรอกโคลี ฟักทอง แครอท
  • ผลไม้: แอปเปิล ฝรั่ง กล้วย ส้ม
  • ธัญพืช: ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ขนมปังโฮลวีต
  • ถั่วและเมล็ด: ถั่วแดง ถั่วดำ เมล็ดเจีย เมล็ดแฟลกซ์

ขับถ่ายไม่ดี (ไม่มีไฟเบอร์) ส่งผลอะไรบ้าง

  1. อึดอัด แน่นท้อง ไม่สบายตัว
    เมื่อลำไส้มีของเสียสะสม จะทำให้รู้สึกแน่นท้อง อึดอัด ท้องแข็ง หรือรู้สึกเหมือนมีแก๊สในท้องตลอดเวลา
  2. เสี่ยงริดสีดวงทวาร
    การเบ่งถ่ายหนักเป็นประจำ หรือถ่ายเป็นก้อนแข็ง จะเพิ่มแรงดันที่ทวารหนัก ทำให้เกิดริดสีดวงทวาร หรือรอยแผลที่ทวาร
  3. ผิวพรรณหมอง ไม่สดใส
    การขับถ่ายที่ไม่ดีทำให้ของเสียตกค้างในร่างกายนาน ส่งผลให้สารพิษบางชนิดถูกดูดซึมกลับเข้าสู่ร่างกาย ส่งผลให้ผิวพรรณดูหมองคล้ำ สิวขึ้น หรือมีผื่น
  4. ปวดหัว อ่อนเพลีย ไม่มีสมาธิ
    เมื่อร่างกายมีของเสียสะสม อาจส่งผลต่อสมดุลของระบบประสาท ทำให้รู้สึกมึน ปวดหัว หรือมีอาการเหนื่อยล้าโดยไม่ทราบสาเหตุ
  5. เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งลำไส้ใหญ่
    ของเสียที่ตกค้างอยู่ในลำไส้นานเกินไป อาจทำให้สารพิษสะสมและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ในระยะยาว
  6. ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง
    ลำไส้เป็นศูนย์รวมของระบบภูมิคุ้มกัน ถ้าขับถ่ายไม่ดี แบคทีเรียในลำไส้จะเสียสมดุล ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันลดลง ร่างกายอาจป่วยง่าย
  7. กระทบสุขภาพจิตและอารมณ์
    คนที่มีปัญหาขับถ่ายมักรู้สึกหงุดหงิด อารมณ์ไม่ดี เครียด หรือไม่มีความมั่นใจ เพราะความไม่สบายตัวเรื้อรัง

สรุป

ไฟเบอร์มีส่วนสำคัญในการสร้างผลดี และ ผลเสียต่อร่างกายร่างกาย หากได้รับไม่เพียงพอก็อาจจะต้องมานั่งลุ้นว่าโรคอะไรจะมาถูกหวยในร่างกายเราไหมครับ สู้กินไฟเบอร์ กากใยอาหารให้ครบตั้งแต่แรกดีกว่า